ข้อแนะนำการเลือกรถมือสอง

        หากใครกำลังมองหา รถมือสอง หรือ รถบ้าน สักคันไว้ใช้งานอาจจะเปิดดูจากเว็บ www.priceusedcar.com แล้วถูกใจอยากซื้ออยากจะไปดูตัวจริงที่เต็นท์รถ แต่ก็กังวลเรื่องของรถเคยถูกชนมาหรือเปล่าหรือกลัวจะถูกหลอกหรือเปล่า หากเรามีความรู้ติดตัวสักนิดเราก็สามารถหารถดีๆไม่ย้อมแมวมาไว้ใช้งานได้ไม่ยากอย่างที่คิดครับ แต่หากใครหวังจะได้รถที่ไม่เคยเฉี่ยวชนเลยแม้แต่น้อยคงต้องบอกเลยว่ายากมาก รถมือสอง เป็นรถที่ผ่านการใช้งานมาแล้วส่วนมากต้องมีเฉี่ยวชนเป็นเรื่องธรรมดาครับ บางคันแค่สีถลอก ทำสีอย่างเดียวก็สวยแล้วขอให้คิดครับว่า เราซื้อรถมือสองเราประหยัดเงินกว่าซื้อมือหนึ่งไปได้มากแล้วครับ หากถามว่าแล้วเราเลือกยังไงให้ได้รถที่ดีที่สุดล่ะ เรามาดูวิธีกันครับ

1. ให้จอดรถในที่สว่าง: อย่าดูในที่มืดหรือแสงส่องไม่ถึงนะครับจะไม่เห็นรายละเอียดทั้งหมด หรือควรจะไปดูรถในเวลากลางวันจะเหมาะสมที่สุด

2. เช็คตะเข็บรอบตัวถังรถ: ให้สังเกตุรอยต่อของประตูรถขอบประตูว่าสมบูรณ์หรือเปล่าดูน๊อตของหรือรอยต่อต่างๆของรถมือสอง ต้องแนบชิด ไม่มีส่วนใดส่วนหนึ่งห่างผิดปรกติครับ เปิดฝากระโปงรถดูน๊อตต่างๆมีรอยการเคยถอดหรือป่าว ถ้ามีรอยแสดงว่าเคยถอดทำสีมาก่อน

3. ดูสีของรถว่าสีสม่ำเสมอกันหรือไม่: ให้ดูสีของรถว่าสีสม่ำเสมอกันหรือไม่ ได้ผ่านการทำสีมาหรือเปล่าโดยให้เดินดูรอบๆคันเลยครับ หากมีการทำสีหรือทำสีมาทั้งคันให้สอบถามเลยว่าสาเหตุที่ทำสีเพราะอะไรครับ

4. เช็คภายในห้องเครื่องยนต์: ให้เปิดฝากระโปรงห้องเครื่อง เช็คดูโครงสร้างเครื่องยนต์ภายใน ดูสภาพภายในห้องเครื่องว่ามีรอยบุบหรือทำสีมาหรือเปล่า อุปกรณ์พวกท่อยางต่างๆต้องสมบูรณ์ ต้องไม่มีคราบน้ำมัน ถ้ามีคราบน้ำมันต้องรีบแก้ไข เพราะต้องให้ความสำหรับกับการทำงานของเครื่องยนต์เป็นสำคัญ และความสมบูรณ์ของระบบไฟฟ้าทั้งหมด เพื่อป้องกันการเจอปัญหาที่ไม่คาดฝันในอนาคต

5. เช็คใต้ท้องรถ: ให้สังเกตุว่าช่วงล่างสมบูรณ์หรือไม่ ใต้ท้องรถเป็นรอยบุบหรือรอยกระแทกหนักมาหรือเปล่าใต้ท้องรถก็สามารถบ่งบอกถึงอุปนิสัยการใช้งานของรถคันนั้นๆได้เลยครับ

6. ดูภายในห้องโดยสาร: ให้ดูภายในห้องโดยสารครับว่าเบาะมีการฉีกขาดหรือไม่ ดูคอนโซลครับว่ามีรอยหรือมีการแตกหักเสียหายหรือป่าวรวมถึงกลิ่นอับภายในห้องโดยสารด้วยครับ รวมถึงอุปกรณ์ภายในรถต้องยังคงใช้งานได้สมบูรณ์หรือไม่ต้องตรวจสอบโดยละเอียด

7. สตาร์ทเครื่องยนต์ว่าสตาร์ทเครื่องง่ายไหม: ให้สตาร์ทเครื่องยนต์แล้วดูครับว่าสตาร์ทเครื่องง่ายไหมสะดุดอะไรหรือเปล่า แล้วฟังเสียงเครื่องยนต์ว่ามีเสียงอะไรผิดปกติหรือไม่ครับ โดยเฉพาะรอบต่ำๆของเครื่องยนต์ถ้ามีเสียงผิดปกติต้องแจ้งทางผู้ขายสอบถามสาเหตุ

8. ทดสอบขับรถ: หากเป็นไปได้ให้ทดลองขับรถโดยให้ออกตัวช้าๆ ก่อนโดยสังเกตุความผิดปกติเวลารถวิ่งครับ ลองเหยียบเบรคดูว่าใช้งานสมบูรณ์หรือป่าว ลองขับรถในสภาพเส้นทางที่หลากหลาย เพื่อตรวจสอบความสมบูรณ์ของรถในการใช้งานจริง

9. ตรวจสอบเอกสารที่ถูกต้อง: ตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับรถ เช่น ทะเบียนรถ, บัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของ, และเอกสารการบำรุงรักษา รถที่มีเอกสารครบถ้วนและถูกต้องมักจะมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น

10. ตรวจสอบประวัติการบำรุงรักษา: หากเจ้าของรถมีประวัติการบำรุงรักษาที่เป็นที่ดี มีการเปลี่ยนชิ้นส่วนหรือซ่อมแซมโดยมีบันทึกทุกครั้ง, นั่นจะเป็นสัญญาณที่ดีว่ารถได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม

11. ตรวจสอบราคาตลาด: ทำการเปรียบเทียบราคาของรถที่คุณสนใจกับราคาที่เหมาะสมในตลาด สามารถใช้เว็บไซต์ www.priceusedcar.com เพื่อดูข้อมูลราคาของรถมือสองในตลาดปัจจุบัน

12. เช็คประวัติอุบัติเหตุ: ตรวจสอบประวัติอุบัติเหตุของรถ, หากเคยเกิดอุบัติเหตุมาก่อน นอกจากการซ่อมแซมที่ชัดเจนแล้ว, ยังควรตรวจสอบว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นมีผลกระทบต่อโครงสร้างของรถหรือไม่

13. ตรวจสอบระบบความปลอดภัย: ตรวจสอบว่ารถมีระบบความปลอดภัยอย่างไรบ้าง เช่น ระบบ ABS, และถุงลมนิรภัย

14. บริการตรวจสอบรถโดยช่างมืออาชีพ: สุดท้าย, ควรให้ช่างมืออาชีพตรวจสอบรถก่อนซื้อ เพื่อความมั่นใจในสภาพจริงของรถและป้องกันการเจอปัญหาที่ไม่คาดฝันในอนาคต.

หากผ่านข้อที่กล่าวมานี้ได้ เราก็มั่นใจได้ระดับนึงแล้วครับว่ารถยนต์คันนี้พร้อมใช้งานแน่นอน