การขับรถมือสองราคาถูกให้มีความปลอดภัยนั้น ไม่ใช่แค่เพียงเรื่องของสภาพรถ แต่ยังหมายถึงเรื่องของการขับขี่ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะการนั่งขับเมื่อต้องเดินทางไกลควรเป็นไปอย่างถูกต้อง เพื่อทำให้เกิดประสิทธิภาพในการขับรถที่ดีขึ้น พร้อมลดปัญหาอาการปวดเมื่อยและลดปัญหาเรื่องการขับขี่ที่มีความอันตรายลงได้ดี ดังนั้นถ้าคุณต้องการขับรถมือสองราคาถูกให้ปลอดภัยสูงสุด คุณควรปรับเปลี่ยนการนั่งขับรถดังต่อไปนี้
1.ใส่ใจพนักพิง
ไม่ว่าจะเป็นรถมือสองราคาถูก หรือรถมือหนึ่ง พนักพิงของทั้งคนขับและผู้โดยสารต่างก็มีความสำคัญ แต่ของคนขับจะต้องปรับให้เหมาะสมที่สุด ไม่เช่นนั้นการเดินทางไกลอาจสร้างปัญหาได้ การปรับพนักพิงจึงจะต้องดูว่ามีความเหมาะสมต่อรูปร่างและความถนัดของผู้ขับเป็นหลัก ไม่เอนหรือตั้งจนกลายเป็นองศาที่นั่งแล้วรู้สึกไม่ดีมากเกินไป เพียงแค่คุณใช้มือซ้ายลองจับไปที่พวงมาลัยในตำแหน่งด้านข้างพวงมาลัยและใช้มือขวาจับพวงมาลัยในแนวเฉียง ถ้าข้อศอกของคุณหย่อนเพียงเล็กน้อยและแผ่นหลังแนบไปกับพนักพิงได้ตลอดจะถือว่าเป็นท่าที่ดี จากนั้นให้คุณมาลองเลื่อนมือไปเรื่อยๆ ลูบพวงมาลัยแบบวนไป-วนมาคล้ายกับท่าหมุนพวงมาลัยในขณะกลับรถ แล้วลองดูว่าข้อศอกกับข้อมือติดขัดส่วนใดของร่างกายหรืออุปกรณ์ใดๆ ในรถหรือไม่ ถ้าการปรับนี้ทำให้คุณรู้สึกถึงการขับขี่ที่มีความคล่องตัว ไม่ติดส่วนใดมากจนเกินไปและหลังนั่งสบาย มองไปด้านหน้าแล้วเห็นทัศนวิสัยชัดเจน แสดงว่าคุณอยู่ในจุดที่เหมาะสมแล้ว
2.ปรับพวงมาลัยให้เหมาะสม
รถมือสองราคาถูกรุ่นใหม่จะสามารถปรับพวงมาลัยให้ขึ้น-ลงหรือสูง-ต่ำได้ ดังนั้นคุณควรปรับให้อยู่ในจุดที่เหมาะสมกับการใช้งานของตัวเองมากที่สุด โดยให้ทดลองใช้มือจับที่พวงมาลัยและให้ข้อศอกหย่อนแบบพอดีไม่ชิดส่วนท้องหรือหน้าอกคุณมากเกินไป ไม่ต่ำจนถึงกับติดไปที่ต้นขาและสามารถมองเห็นทัศนียภาพด้านหน้าชัดเจน พร้อมไปด้วยการปรับทั้งกระจกมองหลังและกระจกด้านข้าง เพราะกระจกทั้งสองจุดนี้ถือว่ามีความสำคัญต่อคนขับเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงต้องปรับให้อยู่ในระยะที่คุณมองเห็นรถด้านข้างและตัวรถอย่างชัดเจนที่สุด โดยเฉพาะกระจกมองหลังควรปรับให้เห็นมุมมองที่กว้างและเห็นภาพของด้านหลังชัดเจน เพื่อทำให้การถอยหลังหรือการขับขี่บนท้องถนนมีความปลอดภัยมากขึ้น
3.ปรับหมอนรองคอ
สำหรับการปรับหมอนรองคอหรือที่เรียกว่าหมอนรองศีรษะของรถมือสองราคาถูกก็มีความสำคัญด้วยเช่นกัน เพราะควรจะต้องอยู่ในจุดที่พอดีกับลำคอ เพื่อให้สามารถพิงหรือเอนศีรษะในช่วงที่รู้สึกเหนื่อยล้าได้ง่าย ไม่ผิดท่าจนอาจทำให้ปวดคอ ควรจะอยู่ตรงช่วงของลำคอพอดี ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเมื่อขับรถอยู่บนท้องถนน คุณจะไม่ค่อยมีเวลาในการพิงหมอน แต่หมอนรองศีรษะนั้นถูกทำขึ้นมาเพื่อช่วยการรองรับช่วงคอและช่วงศีรษะของผู้ขับรถ เป็นส่วนของการช่วยลดแรงกระแทกจากการเกิดอุบัติเหตุ ถ้ามีการชนอย่างรุนแรงที่ไม่ว่าจะด้านใดของตัวรถก็ตาม หมอนรองคอจะเป็นตัวช่วยป้องกันไม่ให้คอสะบัดไปทางด้านหลังจนอาจทำให้คอหักได้ ดังนั้นจึงถือว่ามีความสำคัญมากเช่นกัน ควรปรับให้พอเหมาะกับช่วงคอและช่วงศีรษะเพื่อทำให้การขับรถมีความปลอดภัย
4.ปรับสายคาดนิรภัย
สายคาดนิรภัยหรือที่เรียกกันว่าเข็มขัดนิรภัย สำหรับภายในรถมือสองราคาถูกจำเป็นที่จะต้องปรับสายที่เหมาะสมต่อการนั่งด้วยเช่นกัน ซึ่งสายของเข็มขัดนิรภัยนั้นจะสามารถปรับได้ทั้งสูงและต่ำ เมื่อใดที่คุณเริ่มทำการปรับเบาะนั่งแล้วให้คุณปรับตัวเข็มขัดร่วมด้วย เพื่อให้เกิดการใช้งานที่เหมาะสม ถ้าคุณไม่ปรับอาจจะแน่นหรือหลวมมากเกินไป ซึ่งสายเข็มขัดนั้นจะต้องอยู่ในช่วงของไหปลาร้าและเฉียงลงมาจนถึงช่วงสะโพก จะต้องทับผ่านช่วงอกแบบพอดีจึงต้องไม่แน่นมากจนเกินไป เมื่อขับรถจะได้ไม่รู้สึกอึดอัดและส่วนคาดด้านล่างจะต้องอยู่ในช่วงกระดูกเชิงกรานพอดี จัดเข็มขัดให้เป็นไปในลักษณะนี้จะช่วยลดอันตรายจากการเกิดอุบัติเหตุได้ดีที่สุด และอย่าให้ช่วงสายมาพาดที่ลำคอหรือปล่อยหลวมไปจนถึงหัวไหล่เด็ดขาด ไม่เช่นนั้นคุณอาจจะได้รับอันตรายจากทั้งการเบรกกะทันหันและการเกิดอุบัติเหตุต่างๆ ได้
5.เลือกทุกตำแหน่งควบคุมให้สมดุล
ตำแหน่งการควบคุมต่างๆ ภายในรถจะต้องเป็นไปอย่างสมดุลด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นตัวหน้าปัดนาฬิกา, ตัวจอทัชสกรีน และจุดควบคุมต่างๆ ควรทำให้อยู่ใกล้มือและควรอยู่ในจุดที่เหมาะสม ซึ่งรถรถมือสองราคาถูก แต่ละคันจะถูกจัดตำแหน่งส่วนนี้มาให้เหมาะสมต่อการใช้งานอยู่แล้ว แต่ถ้าคุณต้องการให้ปรับเข้ากับตัวคุณมากที่สุดก็สามารถปรับเปลี่ยนบางจุด ได้ เช่น การปรับขยับพวงมาลัย, การปรับขยับเบาะ, การปรับจอใหม่, การทำจุดควบคุมใหม่ เพื่อทำให้คุณสามารถเอื้อมไปสู่จุดควบคุมต่างๆ ได้โดยไม่ต้องละสายตาจากถนน จึงทำให้การใช้งานรถมีความปลอดภัย พร้อมทำให้คุณควบคุมส่วนต่างๆ ของรถได้อย่างสะดวกมากขึ้น
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องการใช้รถมือสองราคาถูกให้มีความปลอดภัย พร้อมทำให้การขับไปบนท้องถนน ไม่เกิดปัญหา การเดินทางไกลไม่ทำให้คนขับรู้สึกเมื่อยล้าจนเกินไป คุณลองนำทั้ง 5 วิธีนี้ไปปรับใช้กับท่านั่งของคนขับเพื่อทำให้ตลอดการเดินทางมีความปลอดภัยมากที่สุด เมื่อกลับถึงบ้านแล้วไม่ทำให้คนขับรู้สึกเหนื่อยล้าหรือปวดเมื่อยมากจนเกินไปอีกด้วย
