รวม 5 รุ่นรถมือสองราคาถูกไม่เกิน 400000 บาท

รวม 5 รุ่นรถมือสองราคาถูกไม่เกิน 400000 บาท

            การมีรถยนต์ส่วนตัวเอาไว้ใช้งาน ก็ช่วยทำให้เรามีความสะดวกสบายในการเดินทางไปไหนมาไหนมากยิ่งขึ้น แต่หลายคนก็อาจจะมีงบประมาณที่จำกัดและไม่เพียงพอสำหรับการซื้อรถใหม่ป้ายแดง ดังนั้นการซื้อรถยนต์มือสองราคาถูกจึงเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์มากกว่า ซึ่งถ้าหากใครมีงบประมาณสำหรับการซื้อรถยนต์มือสองราคาถูก อยู่ในช่วงไม่เกิน 400,000 บาท เราก็มีรถมือสองน่าใช้ที่มีการตั้งราคาขายอยู่ในช่วงราคานี้ มาแนะนำให้ถึง 5 รุ่นด้วยกัน

 

  1. Suzuki Swift ปี 2018

 

            เป็นรถในกลุ่ม Eco Car ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในตลาดรถมือสอง ซึ่งในรุ่นนี้ก็ได้รับการปรับปรุงดีไซน์ให้มีความทันสมัยมากขึ้น โดย Suzuki Swift รุ่นปี 2018 ก็จะเป็นรุ่นที่อยู่ใน Generation ที่ 3 ของตลาดในเมืองไทย พัฒนาขึ้นบนแพล็ตฟอร์มที่เรียกว่า HEARTECT ทำให้ตัวรถมีน้ำหนักเบาลงแต่มีความแข็งแรงมากขึ้น ช่วยในการประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น พร้อมติดตั้งระบบดับเครื่องยนต์ในขณะที่จอดติดไฟแดงมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และติดตั้งหน้าจออินโฟเทนเมนท์ระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ที่มีช่องเชื่อมต่อ USB และ AUX รองรับ Apple CarPlay พร้อมช่องเก็บสัมภาระด้านท้ายที่มีขนาดใหญ่มากขึ้น รวมไปถึงติดตั้งระบบช่วยขับขี่ปลอดภัยมาไว้ให้อย่างครบครัน 

 

Suzuki Swift 2018 มีวางจำหน่ายด้วยกันทั้งหมด 4 รุ่นย่อย ได้แก่ GA CVT, GL CVT, GLX CVT และ GLX-Navi CVT มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 83 แรงม้า ประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยีหัวฉีดคู่ Dualjet และเทคโนโลยี EGR โดยมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 23 กิโลเมตรต่อลิตร และผ่านมาตรฐานไอเสียระดับ Euro 5 รองรับน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุด E20 

โดยมีราคาจำหน่ายในตลาดรถมือสองเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 350,000 บาท  

 

  1. MG3 ปี 2020 

 

            รุ่นนี้ก็เป็นรถตัวถังแฮทช์แบ็ก 5 ประตูขนาดเล็ก มาพร้อมจุดเด่นในเรื่องของดีไซน์ปราดเปรียวกะทัดรัดสไตล์สปอร์ต สีสันสดใสถูกใจคนยุคใหม่ มีราคาไม่แพงและประหยัดน้ำมัน โดยเปิดตัวมาในช่วงปี 2015  ซึ่งก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในช่วงนั้น และสำหรับ MG3 ปี 2020 ก็ได้อัปเกรดดีไซน์ภายนอกใหม่ที่ดูสปอร์ตทันสมัยมากยิ่งขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบความคล่องตัวปราดเปรียว ขับขี่ได้สนุก โดยมาพร้อมกับกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ที่มีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ ไฟท้าย LED สเกิร์ตข้างสีทูโทนและมีสปอยเลอร์หลังมาให้พร้อม ใช้สีสันในแนว Brit Duo Colour Styling ที่สดใสโดนใจวัยรุ่น และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่แบบ Bi-Colour ขนาด 16 นิ้ว 

 

            MG3 2020 ติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และฟังก์ชันใช้งานอันทันสมัยมาไว้ให้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ พวงมาลัย multi-function  กุญแจรีโมท แผงคอนโซลแบบโมเดิร์นกราฟิก พร้อมระบบอัจฉริยะ i-SMART มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน VTi-TECH 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีดที่สามารถปรับเป็นโหมดแมนนวลได้ พร้อมรองรับน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุดได้ถึง E85 โดยมีให้เลือก 4 รุ่นย่อยได้แก่ C, D, X Sunroof และ V Sunroof ถือได้ว่าเป็นรถยนต์มือสองราคาถูกที่ยังอยู่ในปีค่อนข้างใหม่ โดยมีราคาจำหน่ายในตลาดรถมือสองเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 350,000 บาท  

 

 

  1. Mazda2 ปี 2018

 

            Mazda 2 ปี 2018 ความสนุกเร้าใจที่ไม่เคยหยุด ยนตรกรรมที่จะทำให้คุณสัมผัสถึงความปราดเปรียว คล่องตัว สะท้อนตัวตนในแบบที่ไม่ซ้ำใคร ด้วยเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ ที่ทำให้คุณกับตัวรถนั้นกลายเป็นหนึ่งเดียวกัน ช่วยเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้นมากยิ่งขึ้น สะกดทุกสายตาด้วยดีไซน์สปอร์ตพรีเมี่ยมภายใต้แนวคิด KODO: Soul of Motion ด้วยเส้นสายที่มีความพลิ้วไหวเฉียบคมทรงพลัง ให้ความสปอร์ตในทุกมิติ ภายในออกแบบด้วยความพิถีพิถันในทุกรายละเอียดด้วยวัสดุเกรดพรีเมี่ยม ห้องโดยสารกว้างขวางและจัดวางอุปกรณ์ภายในที่สะดวกต่อการใช้งาน มาพร้อมฟังชั่นที่ทันสมัยอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีเชื่อมต่อออนไลน์ MZD CONNECT หน้าจอทัชสกรีนขนาดใหญ่ 7 นิ้ว พร้อมระบบอินโฟเทนเมนท์อันทันสมัย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ได้อย่างลงตัว

 

             Mazda 2 2018 มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล SKYACTIV-D 1.5 ขนาด 1.5 ลิตร ที่ให้แรงบิดสูงถึง 250 นิวตัน-เมตร พร้อมเทอร์โบแปรผันอินเตอร์คูลเลอร์ หัวฉีดโซลินอยด์ที่สามารถฉีดน้ำมันได้อย่างแม่นยำมีประสิทธิภาพ เผาไหม้หมดจดเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประหยัดน้ำมันได้ถึง 26.3 กิโลเมตรต่อลิตร โดยมี 4 รุ่นย่อยให้เลือกก็คือ Standard, High, High connect และ High Plus นอกจากนี้ก็ยังมีรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G 1.3 ขนาด 1.3 ลิตร ให้แรงม้าสูงถึง 93 แรงม้า และประหยัดน้ำมันได้ถึง 23.3 กิโลเมตรต่อลิตร มี 3 รุ่นย่อยให้เลือกได้แก่ XD, XD High Connect และ XD High Plus L โดย Mazda 2 ปี 2018 ทุกรุ่นก็ผ่านมาตรฐานมลพิษ Euro5 และติดตั้งระบบความปลอดภัยที่ครบครันทันสมัย ให้คุณมั่นใจได้ในทุกเส้นทาง โดยมีราคามือสองเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ  380,000 บาท 

 

  

  1. Honda Jazz ปี 2015

 

            รถ hatchback 5 ประตูสไตล์สปอร์ตรุ่นยอดนิยม มาพร้อมเทคโนโลยีการควบคุมรวมไปถึงเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยขั้นสูง เพิ่มลุคสปอร์ตทันสมัยด้วยสเกิร์ตข้างและสปอยเลอร์หลัง ไฟหน้าแบบ Multi reflector และไฟท้ายแบบ LED  กระจังหน้าสีดำดีไซน์ใหม่ที่ดูโดดเด่นมากกว่าเดิม ภายในมาพร้อมห้องโดยสารขนาดใหญ่ จัดเต็มทุกรายละเอียดทั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน และฟังก์ชั่นการใช้งานที่ทันสมัย มีช่องเชื่อมต่อ USB ช่อง AUX สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง เครื่องเล่นวิทยุซีดี MP3 พร้อมรองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านบลูทูธ 

 

            Honda Jazz 2015 มีให้เลือกทั้งหมด 6 รุ่น ได้แก่ 1.5 S M/T, 1.5 S A/T, 1.5 V A/T, 1.5 V+ A/T, 1.5 SV A/T และรุ่นตัวท็อป 1.5 SV+ A/T ใช้ขุมพลังเครื่องยนต์ i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 117 แรงม้า โดยมีให้เลือกทั้งแบบเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ CVT ใหม่ ที่สามารถตอบสนองได้ทุกการขับขี่กับ 7-Speed Paddel Shift ขับขี่ได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้นด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control และตัวช่วยสำหรับขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน ECO Assist รองรับพลังงานทางเลือก E85 โดยมีราคารถมือสองเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ  390,000 บาท 

 

 

  1. Toyota Yaris ปี 2017 

 

            เป็นรถ hatchback 5 ประตูรุ่นยอดนิยมจากค่ายโตโยต้ากันเลยทีเดียว ซึ่งในโฉมนี้ก็ถูกปรับเปลี่ยนดีไซน์ให้มีความเป็นสปอร์ตปราดเปรียวมากยิ่งขึ้น เพื่อตอบโจทย์คนยุคใหม่ได้ดียิ่งกว่า พร้อมสีเขียวมะนาว Citrus Mica Metallic เปรี้ยวจี๊ดจ๊าดโดนใจวัยรุ่น ตั้งไฟ LED Daylight ที่ช่วยยกระดับรถอีโคคาร์ให้ดูหรูหรามากยิ่งขึ้น ไฟท้าย LED Light Guiding ที่ถูกออกแบบด้วยลายเส้นโค้งเพิ่มความสปอร์ตได้อย่างลงตัว พร้อมติดตั้งไฟเบรก LED ดวงที่สามบริเวณด้านบนกระจกหลังช่วยเพิ่มความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ภายในถูกออกแบบให้มีความกว้างขวางนั่งสบาย ดีไซน์เรียบง่ายดูดีมีระดับ ติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและฟังก์ชั่นการใช้งานที่ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเล่นวิทยุ CD / MP3 / WMA ช่องต่อ USB / AUX ระบบเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านบลูทูธ มีปุ่ม Push Start แทนการเสียบกุญแจ และยังมาพร้อมกับการแสดงผลด้วยดิจิตอลและมาตรวัดเรืองแสงแบบ Optitron ที่สวยหรูและมองเห็นได้อย่างชัดเจน

 

            Toyota Yaris ปี 2017 มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบ DOHC พร้อมเทคโนโลยี Dual VVT-i ขนาด 1.2 ลิตร ให้กำลังส่งสด 86 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i พร้อม Shift Lock พร้อมระบบช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ที่ครบครัน มีรุ่นย่อยให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 4 รุ่นย่อยได้แก่ J ECO, J, E และ G ไม่มีรุ่นเกียร์ธรรมดาให้เลือก โดยมีราคารถมือสองเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 370,000 บาท  

 

            และทั้งหมดนี้ก็คือ 5 รุ่นรถยนต์มือสองราคาถูกไม่เกิน 400,000 บาท ที่เราได้ทำการคัดเลือกมาฝากกันแบบเน้น ๆ เพราะแต่ละรุ่นก็ถือได้ว่าเป็นรถตลาดที่ได้รับความนิยมใช้งานกันเป็นอย่างสูง มีศูนย์บริการที่ได้มาตรฐาน ดังนั้นจึงสะดวกในการดูแลและหาที่ซ่อมบำรุงได้ไม่ยากจนเกินไปนัก 

กันยายน 16 2022 By Admin รถยนต์มือสองราคาถูก       

บทความอื่นที่น่าสนใจ